วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

เชื่อหรือไหม!! เคยได้ยินมาบ่อยครั้ง ว่ามนุษย์โลกเคยทำสัญญากับมนุษย์ต่างดาว

(ภาพนี้ถูกตัดต่อมานะครับ ไม่น่าจะเป็นภาพจริง)
สวัสดีครับวันนี้ขอเสนอเรื่องราวที่ยังคงค้างคาใจของคนในยุคสมัยนี้ ว่าสิ่งที่เล่าต่อกันมานั้น เรื่องใดบ้างที่เป็นเรื่องจริง และเรื่องใด บ้างที่เป็นเรื่องหลอลวง วันนี้ ผมเลยอยากแชร์เรื่องราวที่อาจมีเค้าโครงจากเรื่องจริงอยู่บ้างมานำเสนอ 
เรื่องของเอเลี่ยน หรือมนุษย์ต่างดาวนั้นยังคงมีให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ จนทำให้คนบางกลุ่มเชื่อว่าในจักรวาลของเรานั้นมีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง และมนุษย์เรานั่นไม่ใช้สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาที่สุดในจักรวาลนี้อีกด้วย 

มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ถูกขนานนามว่า The Grey (เดอะเกรย์) และเชื่อกันว่าพวกมันได้มาถึงยังโลกเมื่อปีค.ศ. 1954 วันที่แน่ชัดไม่สามารถสืบรู้ได้ ณ ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด ที่อยู่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย พวกเขามีเพียงจุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นก็เพื่อขอพบกับประธานาธิบดีของสมัยนั้น Dwight D. Eisenhower (ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์) เพื่อทำข้อตกลงอะไรบางอย่าง 

ณ เวลานั้นข้อตกลงนี้ถูกขนานนามว่า the Edwards Agreement (ข้อตกลงของเอ็ดเวิร์ด) หรือที่ Dr. Dan Burisch (ด๊อกเตอร์แดน บูริช) เรียกข้อตกลงนี้มีชื่อว่าสนธิสัญญา Tau IX ซึ่งเป็นสนธิสัญญาเพื่อเป็นการรักษาเผ่าพันธ์ของมนุษยชาติให้สืบต่อไป โดยการแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไข เพื่อปล่อยให้พวกเขาลักพาตัวใครไปก็ได้ เพื่อนำไปทดลองศึกษาค้นคว้าว จะไม่มีการทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิต และเหยื่อเหล่านั้นจะถูกล้างความทรงจำเกี่ยวกับการลักพาตัวไปจนหมดสิ่น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้มนุษย์เป็นหนูทดลองรัฐบาลของสหรัฐจะได้รับก็คือการเข้าถึงเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวและได้เครื่องมือเหล่านั้นมาทดลองด้วย


จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เกิดเหตุการณ์ที่มนุษย์ต้องจดจำกันมานานแสนนาน ถึงการมาเยือยของมนุษย์ต่างดาวเมื่อปี 1947 กับเหตุการณ์ยานบินไร้สังกัตตกที่ Roswell (โรสเวล) ในยานลำนั้นมีมนุษย์ต่างดาวทุกพบหลายศพ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครไม่เคยได้ยินในสมัยนั้น และยังเป็นที่จดจำมาจนทุกวันนี้อีกด้วย

เมื่อปี 1949 ได้มีเหตุการณ์ยูเอฟโอตกอีกครั้งที่ New Mexico (นิวแม๊กซิโก) แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป เพราะมีผู้รอดชีวิต และพวกเขาก็สามารถสื่อสารกับมนุษน์ต่าดาวนั้นได้สำเร็จด้วยเครื่องมือบางอย่าง จึงเป็นที่มาของสนธิสัญญาของปี 1954 นั่นเอง และมีหลักฐานหนึ่งที่ใช้พิสูจน์ทฤษฎีนี้ได้อย่างเด่นชัดนั่นก็คือ ในคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1954 ขณะที่ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในเขตปาล์มสปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เกิดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไปพักหนึ่ง ข่าวอย่างเป็นทาง ณ เวลานั้นระบุว่า เขาต้องเข้ารับการรักษาฟันฉุกเฉินในเมืองใกล้ๆนั้นเอง แต่มีคนเชื่อว่าเขาอาจจะถูกแอบพาไปยังฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดสที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่น เพื่อเข้าพบกับมนุษย์ต่างดาวและตกลงเจรจากันนั่นเอง

ขณะที่การเจรจานั้นกำลังไปได้ด้วยดี แต่ก็มีบางสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น สฐานที่นั้นถูกปิดเงียบจากประชาชน เพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนได้เห็นวิทยาการณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่พวกเขาจะทำการพัฒนาขึ้นมา และได้มีการปิดเงียบจากเหล่านายทหารด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นทหารนับร้อยนายที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดสอยู่ๆ ก็โดนเรียกตัวเพื่อเข้ารับการทดสอบการฟังอย่างไม่รู้ตัวกว่าร้อยนาย

 
และในปัจจุบันนี้ ปรากฏการณ์การลักพาคนจากมนุษย์ต่างดาว ก็ยังคงมีข่าวให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนี่อาจชี้ให้เห็นว่า สนธิสัญญาลับกว่า 60 ปีนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้ ถึงแม้จะยังไม่มีใครหาหลักฐานมาผิสูตรได้เป็นชิ้นเป็นอันก็ตาม แต่มันก็น่าคิดอยู่นะ แล้วคุณล่ะ คิดว่าเรื่องราวของสัญญานี้มีเกิดขึ้นจริงหรือไม่?
อย่าลืมแชร์ต่อให้เพื่อนๆ คุณได้อ่านกันนะครับ

CR : 
disclose

สาธิตทดสอบนำโทรศัพท์ลงน้ำ Samsung Galaxy S7 vs iPhone 6S

กันน้ำ ได้จริง? หรือไหม ไปชมคลิปได้เลย...




รู้ไว้ได้เปรียบ ผงชูรส ทำมาจากอะไร รู้แล้วจะอึ้ง

รู้ไหม? ผงชูรสทำมาจากอะไร แล้วทำไมมันทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้ ผงชูรสเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมรสชาติของ อาหารอย่างมีประสิทธิภาพมานานเกือบ ศตวรรษ องค์ประกอบหลักของผงชูรส คือกรดอะมิโน ที่มีชื่อว่า “กรดกลูตามิก” หรือ “กลูตาเมต” ซึ่งเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติที่พบได้ในอาหารแทบทุกชนิด เราจะมาทำความรู้จัก กับผงชูรสให้มากขึ้นอย่างถูกต้อง รวมไปถึงวิธีใช้ผงชูรสในการปรุงอาหารอย่างเหมาะสมอีกด้วย
 














ผงชูรสผลิตจากอะไร?
 
คำตอบคือ ผงชูรสผลิตจากกระบวนการหมักเช่น เดียวกับเบียร์ น้ำส้มสายชู หรือโยเกิร์ต โดยกระบวนการผลิตจะเริ่มต้นจากการหมักกากน้ำตาลจากอ้อย หรือน้ำตาลจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติโดยผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จะเป็นผลึกขาวบริสุทธิ์ ละลายน้ำได้ง่าย และเข้ากับอาหารได้ทุกชนิด
 
จะใช้ผงชูรสในการปรุงอาหารอย่างไร?
 
ผงชูรสจะช่วยเสริมรสชาติของอาหารหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือผัก โดยจะช่วยให้อาหารมีรสชาติเด่นชัดขึ้น อาหารจำพวกซุป แกงจืด เกรวี่สำหรับราดสเต็ก น้ำจิ้มต่างๆ ก็เป็นตัวอย่างของอาหารที่มีรสชาติที่อร่อยมากขึ้นเมื่อเติมผงชูรสในปริมาณที่เหมาะสม ผงชูรสเป็นสารปรุงแต่งรสอาหารที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยและจะเข้ากันได้ดีกับอาหารรสเค็มและเปรี้ยว แต่จะมีผลน้อยมากเมื่อเติมในอาหารรสหวานและขม การเติมผงชูรสลงในอาหารก็คล้ายกับการเติมเครื่องปรุงรสทั่วๆ ไป เช่น เกลือ น้ำตาล และพริกไทย โดยปริมาณการใช้ผงชูรสอย่างเหมาะสมจะอยู่ในระดับ เดียวกับปริมาณกลูตาเมตในอาหารธรรมชาติ คือ 0.1 – 0.8% ของอาหาร หรืออาจกล่าวได้ ว่าประมาณผงชูรส 1 ช้อนชาเหมาะที่จะใช้ในการปรุงอาหารที่ เป็นเนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม หรือปรุงอาหารจำพวกผักและซุปหรือแกงจืด 1 หม้อ สำหรับเสิร์ฟ 4 – 6 ที่นอกจากนี้ผงชูรสเองก็มีคุณสมบัติจำกัด ตัวเองในด้านรสชาติเช่นเดียวกับเกลือ พริก ไทย และน้ำส้มสายชู การใช้สารปรุงรสเหล่านี้เกินกว่าปริมาณที่เหมาะสม จะไม่ช่วยให้รสชาติดของอาหารดีขึ้น เห็นได้จากการใส่เกลือหรือพริกไทยในอาหารในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้อาหารเค็มเกินไป มีรสชาติไม่เป็นที่ปรารถนา ซึ่งเมื่อมาพิจารณาปริมาณกลูตาเมตที่เติมลงไปในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติแล้ว จะพบว่ามีปริมาณเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณกลูตาเมตทั้งหมดที่เราได้รับ ในแต่ละวันโดยเฉลี่ยมนุษย์จะได้รับกลูตาเมตจากอาหารโปรตีน 10 กรัม และกลูตาเมตอิสระอีกกว่า 1 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถสร้างกลูตาเมต อิสระได้เอง เพื่อใช้ในระบบอื่นๆ อีกวันละ 50 กรัม แต่กลูตาเมตที่ได้รับจากการเติมผงชูรสลงในอาหารจะอยู่ ที่ 1.5 กรัมหรือ 0.1 ช้อนโต๊ะ / คน / วันเท่านั้นนอกจากกลูตาเมตเป็นสารให้รสชาติที่มีในธรรมชาติแล้วในเห็ดหอม เนื้อสัตว์ ปลา และกุ้งนั้น ก็ยังมีสารที่ให้รสของอูมามิอีกกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า นิวคลีโอไทด์อยู่ด้วย สารในกลุ่มนี้ได้แก่ อิโนซิเนต (Inosimate) และกัวนิเลต (Guanylate) และเมื่อลองนึกถึงรายการอาหารที่เราคุ้นเคย เช่น ผัดผักคะน้ากับปลาเค็ม ผัดผักกระเฉดใส่หมูกรอบ ผัดผักกาดขาวใส่เห็ดหอม หรือพิซซ่าซึ่งมีมะเขือเทศกับชีส ที่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการจับคู่ของผักกับเนื้อสัตว์ในการปรุงอาหาร จึงทำให้เกิดรสชาติอร่อยที่เราชื่นชอบได้ คำตอบก็คือจากความชาญฉลาดในการปรุงอาหารของบรรดาพ่อครัวแม่ครัวในการจัดคู่ผักที่เป็นแหล่งของนิวคลีโอไทด์ เพื่อช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง จะเห็นได้ว่าอัตราส่วนที่เหมาะสมของอาหารที่เป็นแหล่งของกลูตาเมตและนิวคลีโอไทด์จะช่วยให้อาหาร มีรสชาติดีกว่าเมื่อมีอาหารดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง

CR : http://khapkhap.info/15news4731-139.html

Snoop Dogg เปลี่ยนสายไปขึ้นเวทีมวยปล้ำ







เมื่อ Snoop Dogg แสดงพลังแห่งแสงเขียว บน เวที WWE จะเกิดอะไรขึ้นไปชม คลิปได้เลย...








ประชาชนอุ่นใจเมื่อเห็น S.W.A.T Malaysia's สาธิต..



คลิปต่อไปนี้เป็นการสาธิตของ หน่วย S.W.A.T มาเลเซีย ที่สมมุติสถาณการณ์บุกชิงตัวประกันในรถบัส
การปฎิบัติการแย่งชิงตัวประกันโดยมีหน่วยรบพิเศษติดอาวุธที่พร้อมรับการก่อการร้ายทุกสถานการณ์ หน่วย S.W.A.T มาเลเซีย จัดแสดงสมรรถภาพของหน่วยให้ประชาชนได้ดูและมั่นใจ เห็นแล้วอยากชมของบ้านเราบ้างงงงง :)




วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

สุดยอดภาพถ่ายที่สร้างผลงานจากธรรมชาติ ที่คุณเห็นแล้วจะหลงรัก Magical Land Art By Andy Goldsworthy




Andy Goldsworthy เป็นประติมากรชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง และสร้างผลงานจากกิ่งไม้ ก้อนหิน และอะไรก็ตามที่ เขาสามารถพบได้รอบตัว จากลูกชายของนักคณิตศาสตร์ที่เติมโตมาในฟาร์ม จนเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลแลงคาเชียร์ หลังจากนั้นเค้าก็ผันตัวมาเป็น นักประติมากรอย่างเต็มตัวในที่สุด และนี่คือ ผลงานบางส่วนของเขา ที่แสดงให้เห็นว่า ผีมือการส้รางสรรค์ผลงานของเขานั้นมันมันไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะไม่น่าเชื่อเลยว่า แค่กิ่งไม้ ใบไม้ ก้อนหิน จะกลายเป็นงานศิลปะที่แสนจะสดงดงามขนาดนี้ ต้องไปชมกันเลยครับ
Andy Goldsworthy is a British sculptor, renowned in his field, that creates temporary installations out of sticks and stones, and anything and everything else that he finds outside. The son of a mathematician, Goldsworthy grew up working on farms before eventually getting his BA from what is now the University of Central Lancashire. “A lot of my work is like picking potatoes,” he told the Guardian. “You have to get into the rhythm of it.”
Much of Goldsworthy’s work is transient and ephemeral, leading many to view it as a comment on the Earth’s fragility. But for Goldsworthy, the picture is more complex.
“When I make something, in a field or street, it may vanish but it’s part of the history of those places,” he says in another interview. “In the early days my work was about collapse and decay. Now some of the changes that occur are too beautiful to be described as simply decay. At Folkestone I got up early one morning ahead of an incoming tide and covered a boulder in poppy petals. It was calm and the sea slowly and gently washed away the petals, stripping the boulder and creating splashes of red in the sea. The harbour from which many troops left for war was in the background.”

land-art-andy-goldsworthy-1
    
   land-art-andy-goldsworthy-2

   land-art-andy-goldsworthy-4

  land-art-andy-goldsworthy-6

  land-art-andy-goldsworthy-8

  land-art-andy-goldsworthy-10

  land-art-andy-goldsworthy-5

  land-art-andy-goldsworthy-23
  
  land-art-andy-goldsworthy-20

  land-art-andy-goldsworthy-26

  land-art-andy-goldsworthy-9


  

 land-art-andy-goldsworthy-12

CR : http://www.boredpanda.com/land-art-andy-goldsworthy

ถ้าทดลองแบบนี้ที่ประเทศไทย บอกเลยเงิบบบ!!



เมื่อคุณได้ยินเสียงของลูกสุนัข ที่อยู่ในถุงสีดำ และทำร้ายลูกสุนัข โดยผู้ชายคนนั้น นี้คือการทำลองปฏิกิริยาทางสังคม เราจะได้เห็นการตอบสนอง ของประชาชนในสังคม กับสิ่งที่ชายผู้นี้ทำ มารับชมกันเลยครับ...








CR : https://www.youtube.com/watch?v=dgoWeqkIM54

มหาเศรษฐีเห็นบ้านเก่าใกล้คฤหาสน์...จึงไปถามซื้อด้วยเงินหลายล้าน แต่เมื่อเจ้าของ...

มหาเศรษฐีท่านหนึ่ง บ้านช่องสวยงามตระการตาแต่อยู่ติดกับบ้านที่เป็นรั้วบ้านเก่าสังกะสีผุๆ ท่านตื่นขึ้นมาทุกเช้า มองออกไปเห็นบ้านเฮงซวยหลังนี้ ทิวทัศน์ ทัศนวิสัย แย่มาก
วันหนึ่งทนไม่ไหวแล้ว เห็นตาแก่เจ้าของบ้านสังกะสีตื่นมาพอดี จึงเดินเข้าไปหาและถามว่าบ้านมึงขายเท่าไร ? กูเห็นทุกวันอุบาทว์ตามาก จะขายเท่าไรก็ซื้อ
    เจ้าของบ้านสังกะสีอันซอมซ่อ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพูดจานุ่มนวลอ่อนโยนว่า.. ท่านผู้มีอันจะกิน ไม่ขายขอรับ ทุกเช้าผมตื่นขึ้นมา ก็ได้เห็นปราสาทที่งดงามของท่าน ผมมีความสุขที่ได้เห็นแต่สิ่งที่สวยงามตระการตา ทุกเช้าสายบ่ายเย็น ถ้ากระผมขายบ้านให้ท่านไป กระผมก็จะไม่ได้เห็นสี่งที่งดงามตระการตานี้อีกต่อไป

    มหาเศรษฐีถามต่อ แล้วมึงไม่ดูบ้านตัวเองว่า อุดจาดตาแค่ไหน อยู่ได้ยังไงนี่
    เจ้าของบ้านสังกะสีอันซอมซ่อ ตอบว่า..ขอรับกระผม กระผมก็แค่อาศัยอยู่ด้วยจิตที่เสาะแสวงหาแต่ความดี และความงาม อะไรที่มันไม่งาม กระผมก็ไม่สนใจดู กระผมดูแต่ความงามความดีเท่านั้น อะไรที่ไม่ดีไม่งามกระผมก็ไม่ใส่ใจขอรับ กระผมก็ไม่เข้าใจท่านเหมือนกัน บ้านท่านออกใหญ่โตงดงาม แต่ท่านกลับไม่สนใจ ตื่นเช้ามาก็สนใจแต่บ้านเฮงซวยของกระผม ถ้ากระผมเป็นท่าน จะชื่นชมความงามพร้อมของบ้านตัวเอง และไม่สนใจบ้านที่เฮงซวยของคนอื่น
    ท่านเศรษฐี ได้คิดว่า.. จริงด้วย เราคงบ้าไปแล้ว
    ที่เอาจิตของตัวเองไปจับแต่เรื่องเลวร้าย บ้านของตัวเองที่สวยงามมากกลับไม่สนใจ แถมยังไปวุ่นวายกับของนอกกายรอบข้างที่สกปรก นับตั้งแต่นั้นมา ท่านมหาเศรษฐีก็เข้าใจในธรรมของผู้ยากไร้    และกลายเป็นกัลยาณมิตรกัน จวบจนสิ้นอายุขัย
     บาง ครั้ง เรามัวแต่มองออกไปภายนอก จนลืมมอง ถึงสิ่งดีๆ ที่เรามี อยู่กับตัว หากเราได้…ตั้งสติ และมองออกจากภายใน มองด้วยจิตใจที่งดงาม เราคงได้เห็น ความงดงาม และ คุณค่า ของสิ่งต่างๆ อีกมากมาย ที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ใจของเรา..คงผ่องใส ชีวิตของเรา..คงมีแต่ความสุข ได้ทุกวัน
มีมุมมองดีๆที่ซ่อนอยู่ ...

CR:http://khapkhap.info/

เจอแบบนี้เงิบสิ!!! โคตรสะใจ พวกชอบมองคนจากภายนอก


สำหรับผู้ที่ทำงานด้านบริการ คุณสมบัติหลักเลยก็คือ ความสุภาพ อ่อนโยน พร้อมยินดีให้บริการลูกค้าทุกระดับ ไม่มีการแบ่งชนชั้น แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะพนักงานธนาคารแห่งนี้ ช่างให้บริการที่สุดแย่จริงๆ โดยเรื่องมีอยู่ว่า มีชายชราแก่ๆคนหนึ่ง แต่งตัวปอนๆ เนื้อตัวมอมแมม สกปรก เลยพูดจาไม่ดีใส่ สุดท้ายคุณลุงต้องแก้เผ็ดเอาคืน ด้วยวิธีการนี้


เมื่อคุณลุงต้องการจะถอนเงินแต่พนักงานไม่ให้ถอน !!
ลุงคนหนึ่งเดินเข้าธนาคารเพื่อที่จะถอนเงิน 3,000 บาท
พนักงาน :  ถ้าลุงจะถอนแค่นี้ ลุงต้องไปถอนที่ตู้ค่ะ (เสียงไม่พอใจ)
ลุง : ลุงกดไม่เป็น เลยมาถอนเงินที่เคาเตอร์
พนักงานที่เคาเตอร์เค้าให้ถอนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปค่ะ
ลุง : ถ้าอย่างนั้นลุงขอถอนหมดบัญชีเลยละกัน
พอพนักงานธนาคารตรวจดูเงินในบัญชีลุงดูก็ตกใจ เพราะยอดเงินในบัญชีมีตั้ง 11 ล้านบาท
พนักงาน : เออ ! ลุงจะถอนหมดในวันนี้ ทีเดียวไม่ได้ค่ะ ลุงต้องแจ้งเรื่องไว้ก่อนล่วงหน้านะค่ะ
ลุง: แล้วลุงจะถอนมากที่สุดเดี๋ยวนี้ได้เท่าไหร่ล่ะ
พนักงาน : 3 ล้านค่ะ
ลุง: งั้นลุงถอน 3 ล้านเลยล่ะกัน
แล้วพนักงานก็จัดการถอนให้และนับเงินให้ลุงจนครบ 3 ล้าน แล้วมอบให้ลุง พอลุงแกรับเงิน แกก็แยกออก 3,000 บาท แล้วพับใส่กระเป๋ากระเป๋ากางเกง ส่วนเงินที่เหลือแกยื่นให้พนักงานแล้วพูดว่า

ลุง: ช่วยนับเงินที่เหลือ แล้วฝากเข้าบัญชีผมเหมือนเดิมนะ  

CR:http://khapkhap.info/

ล้มกี่ครั้งก็ยืนขึ้นได้ทุกครั้ง 10 ข้อคิดที่ต้องรู้














1. กล้าตีฝ่า ทุกครั้งที่ล้มต้องลุกขึ้นเร็ว ทำหน้าเหมือนไม่เจ็บ ทั้งๆที่ข้างในกระอักเลือด แค่ข้อนี้!! ข้อเดียวก็พอจะบอกได้ว่า ใครจะผ่านด่านแรกในยุคเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ไปได้บ้าง


2.กล้าตื่นเช้า ขยัน และยิ้มเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม 18 ชั่วโมงต่อวัน


3.กล้าอดใจ ประหยัดโคตรๆ กล้าหาเหตุผลที่ไม่ใช้เงิน ได้อย่างชาญฉลาด ในช่วงสร้างตัว 

4.กล้ายกมือไหว้ลูกค้าทุกคน!


5.กล้าที่จะอดทน กล้าเหนื่อย และทำสม่ำเสมออยู่อย่างนั้น  "ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย อยากรวยแต่ไม่ต้องเหนื่อย มันไม่มีจริง"

6.กล้ายืนหยัดต่อแรงเสียดทาน กล้าประกาศเจตนาดีของตัวเอง กล้าเป็นตัวเอง


7. กล้าตัดสินใจ กล้ายอมรับทั้งผิด ทั้งชอบ ในช่วงที่ทุกอย่างที่
เขาได้สร้างมาได้พังคามือ เวลานั้นมันง่ายมากถ้าเขาจะทิ้งทุกอย่างและหนีไป แต่เขากลับเลือกยืนหยัด และรับผิดชอบชีวิตที่เหลืออยู่ แถมยังกล้าสร้างใหม่!


8. กล้าให้เวลากับตัวเอง ในการสร้างความสำเร็จ ไม่ลกความสำเร็จ หาแต่ทางลัด 


9. กล้าเล็ก เรียบง่าย นอบน้อม เหมือนรวงข้าวที่สุกแล้วย่อมลู่ดิน

10. กล้าทำงานหนัก กล้าสร้างในขณะที่คนอื่นนอน กล้าทำในขณะที่คนอื่นพัก

ท้ายที่สุดเวลาคุยกันคนจนไม่เคยรวย คนเหล่านั้นจะโทษฟ้าโทษดิน โทษคนอื่นไปเรื่อย
เวลาคุยกับคนรวยไม่เคยจน คนเหล่านั้นจะประมาท แต่เวลาคุยกับคนรวยที่เคยจน แล้วกลับมารวยได้อีกครั้ง เราจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านั้น เพราะคนเหล่านั้นของจริงครับ

source: wisethailand.com

จากคนรับจ้างก่อสร้าง เปลี่ยนชีวิตมาเป็นผู้บริหารเงินนับสิบล้าน เพียงแค่ ''เพราะผมอ่านหนังสือ''



ผู้ชายคนนี้สุดยอด จากการใช้เวลา เพียงแค่ 6 ปี เค้าสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ถึงขนาดนี้
จากจุดเริ่มต้น ....

เมื่อ 6 ปีก่อน
เขารับจ้างก่อสร้าง คนในครอบครัวก็รับจ้าง เมื่อ 6 ปีก่อน เขาเริ่มอ่านหนังสือเล่มแรก

เมื่อ 5 ปีก่อน
เขาเริ่มอธิบายความหมายในหนังสือ และปลูกหญ้าขาย เมื่อได้อ่านหนังสือ "หญ้า" และก่อตั้งกองทุนสวัสดิการในหมู่บ้าน เพราะได้อ่านหนังสือ ดร.ดูลิตเติ้ล

เมื่อ 4 ปีก่อน
เขาอ่านมากขึ้น เพราะรู้ว่าหนังสือช่วยคิด และคิดอาชีพใหม่ให้ครอบครัว ชุมชน

เมื่อ 4 ปีก่อน 
ผมสมัครเข้ากองทุนสวัสดิการฯ ของเขา

เมื่อ 3 ปีก่อน
เขาคิดวิธีขจัดยุงลาย และชาวบ้านได้เงินด้วยวิธีรับซื้อกะลามะพร้าวอันเป็นแหล่งยุง เขาเผากะลามะพร้าวทำถ่านอัดแท่ง


เมื่อ 2 ปีก่อน
ราคายางพาราเริ่มตกต่ำ เขาคิดหาพืชปลูกแทนยางพารา และชักชวนคนอื่นๆ ให้ปลูกหมากในที่ว่าง

เมื่อปีก่อน
เขารับซื้อผลหมากและปาล์มจากชาวบ้าน เขาบอกคนในครอบครัวว่า"อย่ากดราคาคนจน พวกซาเล้งต้องช่วยเขา"

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมถามเขาเล่นๆ ว่า"ความสำเร็จจนบริหารเงินนับสิบๆ ล้านเกิดขึ้นในเวลาอันสั้นได้อย่างไร"

เขาตอบหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มว่า "เพราะผมอ่านหนังสือ"

และนั้นคือสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ หนังสือ ทุกเล่มมีเนื้อหาบทความ และประสบการณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาให้เราได้ศึกษา ไม่ใช่เพียงแต่ตีพิมพ์ออกมาว่างโชว์...

CR : mthai.com

ถอดให้รู้กันไปเลย “เครื่องบินรบ” แต่ละลำว่ามันมีดีอะไร

ใครเคยสงสัยบ้างว่า เครื่องบินรบ 1 ลำ มีอาวุธอะไรซ้อนอยู่บ้าง เพราะขึ้นชื่อว่าเครื่องบินรบต้องมีความอันตรายในการทำลายสูง ตั้งแต่สมัยสงครามโลกที่ผ่านมา เครื่องบินรบก็กลายเป็นปัจจัยหลักในการทิ้งระเบิดบอม เพื่อทำลายฐานของคู่ต่อสู้กันมาเยอะแล้ว วันนี้ทางทีมงานเลยจะพาทุกคนไปชมว่า ไอ้เครื่องบินรบที่เราเห็นๆกันแค่ภายนอกเป็นเครื่องบินหนึ่งลำ แท้จริงแล้วภายในมันอันตรายขนาดไหน มีอาวุธร้ายแรงอะไรที่ซ่อนอยู่บ้าง วันนี้จะได้รู้กัน
107
108
109
110
111112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126